วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

Recorded Diaryครั้งที่ 3 ประจำวันศุกร์ ที่ 29.01.59

   
                                

                                                             





1.ความรู้ที่ได้รับ (Knowledge)
 เรียนประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ 
1.กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง มีความเป็นเลิศทางสติปัญญาเรียกโดยทั่วๆไปว่า  " เด็กปัญญาเลิศ "
 เด็กปัญญาเลิศ (Gifted Child)




  • เด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา
  • มีความถนัดเฉพาะทางสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

  • ตัวอย่างเด็กปัญญาเลิศ
 Kin Ung-Yong  เด็กเกาหลีใต้ IQ 213 


Akrit Jaswal เป็นชาวอินเดีย และได้รับการขนานนามว่า เด็กผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะ
มี IQ ถึง 146 และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในเด็กที่มีอายุเท่า ๆ กัน





เด็กอัจฉริยะเมืองไทย    ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี
ที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นคือความสามารถทางด้านศิลปะ
ธนัช ได้ชื่อว่าเป็น จิตรกรวาดภาพสีน้ำในแนวนามธรรมที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ที่สามารถจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะเดี่ยว และสามารถจำหน่ายผลงานในขณะแสดงนิทรรศการได้จำนวนมาก ในวัยเพียง 3 ขวบครึ่ง







ลักษณะของเด็กปัญญาเลิศ

  • พัฒนาทางร่างกายและจิตใจสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
  • เรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
  • อยากรู้อยากเห็นอย่างจริงจังชอบซักถาม
  • จดจำได้รวดเร็วและแม่นยำ


**เด็กฉลาด                                                                                         **Gifted
ตอบคำถาม                                                                                           ตั้งคำถาม
สนใจเรื่องที่ครูสอน                                                                              เรียนรู้สิ่งที่สนใจ
ความจำดี                                                                                               เบื่อง่าย
เรียนรู้ง่ายและเร็ว                                                                                  ชอบเล่า
พอใจผลงานของตน                                                                             ติเตียนผลงานของตน



2.กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
1.เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา
2.ด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
3.ด็กที่บกพร่องทางการเห็น
4.ด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
5.ด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา
6.ด็กที่บกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
7.ด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้
8.เด็กออทิสติก
9.เด็กพิการซ้ำซ้อน



1.เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญ (Children With Intellectual Disadilities)
หมายถึง เด็กที่มีระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกัน มี 2 กลุ่ม คือ เด็กเรียนช้า และ เด็กปัญญาอ่อน

เด็กเรียนช้า 

  • สามรถเรียนรู้ในชั้นเรียน
  • ขาดทักษะในการเรียนรู้

-มีระดับสติปัญญา IQ ประมาณ 71-90 

สาเหตุของการเรียนช้า
**ภายนอก                                                                                            **ภายใน

-เศรษฐกิจของครอบครัว                                                             -พัฒนาการช้า
-สร้างเสริมประสบการณ์ของคนให้แก่เด็ก                                -การเจ็บป่วย




   
                                                                    เด็กปัญญาเลิศ



  • ระดับสติปัญญาต่ำ
  • พัฒนาการล่าช้าไม่เหมาะสมกับวัย
  • มีพฤติกรรมการปรับตนบกพร่อง
  • อาการแสดงก่อนอายุ 18


                                                                  เด็กปัญญาอ่อน
  


แบ่งตามระดับสติปัญญา (IQ) ได้4กลุ่ม
  • เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักหนักมาก IQ ต่ำกว่า20
  • เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ 20-34
  • เด็กปัญญาอ่อนขนาดปานกลาง IQ 35-49
  • เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70


ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome)



สาเหตุ 

  • ความผิดปกติของโครดมโซมคู่ที่ 21
  • ที่พบบ่อยคือโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง  ( TRisomy 21 )
อาการ
  • ศรีษะเล็กและแบน คอสั้น
  • หน้าแบน ดั้งจมูกแบน
  • ตาเฉียง ปากเล็ก
  • มือแบนกว้าง นิวมือสั้น

การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดกลุ่มอาการดาวน์






  • การเจาะเลือดของมารดาในระหว่างที่ตั้งครรภ์
  • อัลตราซาวน์
  • การตัดชิ้นเนื้อรก
  • การเจาะน้ำคร่ำ
2.เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
( Childdren With Hearing Impaired )







หมายถึงเด็กที่มีความบกพร่องหรือสูญเสียการได้ยินเป็นเหตุให้การรับฟังเสียงต่างๆได้ไม่ชัดเจนมี 2 ประเภทคือ เด็กหูตึง และเด็กหูหนวก

3.เด็กที่บกพร่องทางการการเห็น
( Childdren With Visual Impairments )






  • เด็กที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสงเห็นเลือนลาง
  • มีความบกพร่องทางสายตาทั้งสองข้าง
  • สามารถเห็นได่ไม่ถึง 1/10 ของคนสายตาปกติ
  • มีลานตาสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดกว้างไม่เกิน 30 องศา
จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือเด็กตาบอด และเด็กตาบอดสนิท 

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการเห็น
  • เดินงุ่มง่าม ชนและสะดุดวัตถุ
  • มองเห็นสีผิดไปจากปกติ
  • มักบ่นว่าปวดศรีษะ
  • ตาและมือไม่สัมพันธ์กัน


2.skills (ทักษะ)


ศึกษาฟังเพื่อให้ได้ใจความและเกิดความเข้าใจการจับประเด็นสำคัญๆ
3.Apply(การประยุกต์ใช้)
นำไปเป็นแนวทางที่เราจะนำไปจัดกิจกรรมแผนในการเรียนการสอนเพื่อบูรณาการได้ในอนาคตเป็นเนวทางที่เราจะจัดกิจกรรมในการเรียนการสอน

4.technique  (เทคนิคที่อาจารย์ใช้สอน)
การถามประสบการณ์ดิมลนำมาเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ การใช้คำถาม เพื่อให้นักศึกษาได้คิดพิจารณาอย่างมีเหตุผล การจับประเด็นที่เป็นประโยชน์และสำคัญๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น

 5.assessment (ประเมิน)


ตัวเอง      แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลามีส่วนร่วมในการตอบคำถาม

เพื่อน        แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน 

อาจารย์     เเต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลา สอนให้ความรู้อย่างเต็มที่ ฝึกให้เราได้ใช้ความคิดเเละการหาคำตอบ ส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในห้องเรียน

ห้องเรียน    ห้องเรียนสะอาด เก้าอี้เพียงพอต่อนักศึกษา








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น