ประเภทของเด็กที่มีความบกพร่อง
4.เด็กที่มีความบกพร่องทางทางการการพูดและภาษา
( Children With Speech And Language Disoorders)
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1.ความบกพพร่องในด้านการปรับปรุงเสียง
- เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป ''ความ '' เป็น '' คาม ''
- ออกเสียงของตัวอื่นแทนที่ถูกต้อง "กิน" "จิน" กวาด ฟาด
- เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย "หกล้ม" เป็น หก- กะ- ล้ม
- เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง "แล้ว" เป็น "แล่ว"
2.ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
( Speech Flow Disorders )
- พูดไม่ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน
- การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
- อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
- จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
3.ความบกพร่องของเสียงพูด
( Voice Disorders )
- ความบกพร่องระดับเสียง
- เสียงดังหรือค่อยเกินไป
- คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด
และ / หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำ
1.การพัฒนาการทางภาษษช้ากว่าวัย ( Delayed Language )
- มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
- ไม่สามารสร้างประโยคได้
2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษษอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมองโดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ Aphasia
- อ่านไม่ออก ( Alexia )
- เขียนไม่ได้ ( Agraphia )
Gerstmann's Syndrome
- ไม่รู้ชื่อนิ้ว ( Finger Agnosia )
- ไม่รู้ซ้ายขวา ( Allochiria )
- คำนวณไม่ได้ ( Acaiculia )
- เขียนไม่ได้ ( Agraphia )
- อ่านไม่ออก ( Alexia)
5.เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
( Children With Physical And Health Impairments )
- เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
- เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก ( Epilepsy )
- เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องจากความผิดปกติของระบบสมอง
- มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
1.การชักในช่วงเวลาสั้นๆ ( Petit Mall )
2.การชักแบบรุนแรง ( Grand Mall )
3.อาการชักแบบ ( Partial Complex )
4.อาการไม่รู้สึกตัว ( Focal Partial )
5.ลมบ้าหมุ (Grand Mall )
เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็ง หรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
ซี.พี ( Cerebral Palsy )
- การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือ เป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
- การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง Spastic
- Spastic Hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
- Spastic Diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
- Spastic Paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
- Spastic Quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
3.กลุ่มอาการแบบผสม ( Mixed )
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ( Muscular Distrophy )
- เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedie)
ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อน เนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
โปลิโอ ( Poriomyelitis )
- มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
- ยืนไม่ได้ หรืออาจจะปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
แขนขาด้วนแต่กำเนิด ( Limb Deficiency )
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
- ทาเดินคล้ายกรรไกร
- เดินขากะเผลก หรือเชื่องช้า
- ไอเสียงแห่งบ่อยๆ
- หกล้มบ่อยๆ
2.skills (ทักษะ)
มีการใช้คำถาม การยกตัวอย่างประกอบและให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์
การสังเกต เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดร่วมกัน
4.technique (เทคนิคที่อาจารย์ใช้สอน)
ให้นักศึกษามีความคิดที่หลากหลายการใช้คำถามนำไปคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ เรียนรู้การใช้คำถามเพื่อโยงเข้าสู่หลักบทเรียน
ให้นักศึกษามีความคิดที่หลากหลายการใช้คำถามนำไปคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ เรียนรู้การใช้คำถามเพื่อโยงเข้าสู่หลักบทเรียน
5. assessment (ประเมิน)
ประเมินตัวเอง แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลาและมีส่วนร่วมในการตอบคำถามตั้งใจเรียนจดบันทึก
ประเมินเพื่อน แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินห้องเรียน ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน แอร์เย็น เก้าอี้เพียงพอต่อนักศึกษา
ประเมินอาจารย์ เเต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลาเตรียมตัวมาสอนด้วยความพร้อม
อธิบายการสอนให้เกิดความเข้าใจง่ายมากขึ้น
อธิบายการสอนให้เกิดความเข้าใจง่ายมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น